การพัฒนาเกม ณ ปัจจุบัน มาถึงทางตันแล้วหรือยัง?

Thursday, November 4, 2010
วันนี้มาแปลกหน่อย ขอโพสอะไรยาวๆบ้าง
อันเนื่องมาจากได้ไปอ่านบทความนี้จากบล็อค Unreality หัวข้อคือ Has Video Game development stalled? หรือแปลภาษาชาวบ้านเป็นคำถามว่า เกมสมัยนี้มันหมดไอเดียใหม่ๆกันแล้วหรือเปล่า

เลยขอยกประเด็นนี้มาเอ่ยและถกกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนในที่นี้
จะขอแปลไปได้ออกความเห็นตัวเองไปด้วยก็แล้วกันครับ

ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ

จากบทความนั้นได้ออกความเห็นไว้ว่า
เกม "ภาคต่อ" ในปัจจุบันนี้มันดูจะไม่ใช่คำนิยามของคำว่าเกม "ภาคใหม่" อีกแล้ว เกมอย่าง Fable 3, Force Unleashed 2 หรือ Halo Reach ที่ยอดขายถล่มทลายนั้นก็ไม่ได้สร้างความ แปลกใหม่ อะไรเลย
Force Unleashed 2 ภาคต่อของเกม Star Wars franchise ที่ขายดีที่สุดเกมหนึ่งแต่พอภาคสองกลับแย่กว่าภาคแรก หรือเกมอย่าง Halo Reach เกมที่ขายที่ดีสุดของ Xbox360 ในช่วงปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลย
หรืออีกกรณีก็คือพวก ภาคใหม่ครึ่ง ทั้งหลายแหล่อย่าง Fallout New Vegas นี่ใช่เลย ด้วย ระบบเดิมปรับแต่งนิดโน่นหน่อย(บวกบั๊คไปอีกฝูงนึง) ใส่เนื้อเรื่องใหม่ สถานที่ใหม่ลงไป เขย่าๆๆๆ ได้ออกมาละ Fallout 3 ครึ่ง ระบบต่างๆอาจถูกปรับแต่งให้ดีขึ้นบ้าง แต่คงจะเรียกว่าเป็นภาคใหม่เลยคงไม่ได้ กลับกันนะครับ เกมซีรี่ย์ The Elder Scrolls กลับมีการพัฒนาที่ชัดเจนและเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร (New Vegas Obsidian พัฒนาน่ะแต่ Bathesda ก็เป็นผู้ผลิตนะ)

ส่วนหนึ่งอันเนื่องมาจากอุตสาหกรรมเกมนั้นค่อยๆแปรสภาพไปเหมือนอุตสาหกรรมภาพยนต์ คือใช้ทุนสูงขึ้น ทุ่มโฆษณามากขึ้น ส่วนเหล่าผู้ผลิต(Publisher) ก็หิวกระหายเงินจนบางทีก็ส่งผลเสียกับการพัฒนาเกมได้ เมื่อเหล่าผู้ผลิตเห็นว่า Franchise ไหนขายดี ก็จะพยายามเข็นเกมใหม่ๆใน Franchise นั้นออกมาเรื่อยๆ ผลดีมันก็มีที่แฟนๆของเกมเหล่านั้นก็คงดีใจ แต่บางทีมันก็เป็นการปิดโอกาสในการสร้าง IP หรือคิดค้นไอเดียอะไรใหม่ๆเช่นเดียวกัน อย่างเช่นตัวอย่างกรณี Infinity Ward ปะทะ Activision นั่นไงที่เป็นกรณีดีเด่นเหรียญทองในเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ครับ

IP ใหม่? อะไรคือ IP ใหม่ จากชาร์ตยอดการขาย SKUs (Stock Kepping Unit) ของตามร้านค้าเกมในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2010 ถึงปัจจุบัน ก็เห็นจะมีแต่ Just Dance (Wii) เท่านั้นที่เป็น IP ใหม่ o_O" นอกนั้นเป็นเกมภาคต่อ(ที่เท่าไหร่ก็แล้วแต่) ทั้งนั้น

ทุกบริษัทผู้นำต่างโดนข้อหานี้หมดครับ ไม่ว่าจะเป็น Sony ที่ก็เข็น Killzone กับ God of War ออกมาเรื่อยๆสำหรับช่วงหลังๆมานี้ Microsoft ก็เหมือนจะก้าวถอยหลังอย่างช้าๆกับ Fable และ Halo (ซึ่งคาดว่าน่าจะหมดแล้วนะ) หรือค่ายปู่นินที่ก็รู้ๆกันว่าเข็นเกมของตัวละครยอดฮิต 4-5ตัวที่มีออกมาเรื่อยๆ

แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีแสงสว่างในความมืดซะเลย เพราะว่ายังมีเกมภาคต่อดีเด่นอย่าง Red Dead Redemption (ภาคต่อของ Red Dead Revolver) ที่ให้เราได้สัมผัสกับโลก Open World สไตล์ตะวันตกแบบเต็มที่ (ซึ่งจริงๆแล้วไอเดียมันก็มาจาก GTA นั่นแหละ แต่ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้วก็คงเรียกว่าพัฒนาไปอย่างมาก) และอีกเกมก็คือ Assassin's Creed 2 ที่หลายคนชื่นชอบ ถึงแม้ว่า Gameplay จะคล้ายกับเกมภาคแรกแต่ด้วยจากการที่ทางผู้พัฒนานั้นนำข้อติติงของแฟนๆแทบจะทุกเรื่องไปแก้ไขจนเรียกได้ว่าแก้ข้อเสียจากภาคแรกไปแทบทั้งหมดเลยก็ว่าได้

แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผู้พัฒนาอื่นๆกันล่ะ มันสมองไม่มีกันแล้วหรืออย่างไร (รมเสีย!)
หรือว่าอาจจะมาจากประเด็นเหล่านี้ก็เป็นได้

อันดับแรกก็คือ เรายังคงต้องติดอยู่กับ Console ณ Generation นี้ไปอีกพักใหญ่ และผู้ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ก็คือเจ้า Wii นี่เอง

ก่อนอื่นอยากให้ดูจำนวนยอดขายสูงสุดของแต่ละเครื่องกันซะหน่อยก่อน ขอเริ่มที่ Xbox 360 กันก่อน โดยมือวางอันดับ 1 ก็คือ Halo 3 ที่ทำยอดขายไปได้ถึง 8.1 ล้านก๊อปปี้เลยทีเดียว ซึ่งยอดขายนี้ก็ทำให้ Bungie กับ Microsoft รวยกันเละเทะเลยทีเดียว
ต่อมา Playstation 3 เกมอันดับต้นตารางก็คือ Call of Duty: Modern Warfare 2 ที่ทำยอดไปได้ 4.8 ล้าน ก็นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนของ PC เกมที่ทำยอดขายสูงสุดก็คือ The Sims ภาคแรกที่ขายไปได้มากกว่า 16 ล้านก๊อปปี้ซึ่งนับเป็นปรากฎการณ์เลยก็ว่าได้สมัยนั้น ลูกเด็กเล็กแดง เพื่อนพี่พ่อต่างเล่นเกมนี้กันแทบจะทุกคน

แต่เดี๋ยวก่อนครับ...... แล้วของ Wii ล่ะ ฮึ เครื่อง Wii น่ะหรอจะมาสู้เครื่อง Hardcore ของเหล่าเกมเมอร์อันแท้จริงได้
หลายคนคงคิดแบบนี้ แต่ดูครับดู Wii Sports ครับ ขายไปได้ 67.71 ล้านก๊อปปี้ครับ มากกว่า Halo 3 ประมาณ 8 เท่า หรือมากกว่า COD MW2 แค่ 14 เท่า แค่นั้นเอง โอวแม่เจ้าาา

เอาล่ะขอกลับเข้าเรื่องต่อ
ทำไมถึงจะต้องกล่าหา Wii Wii ผิดอะไร
ก็อันเนื่องมาจากระบบ Motion Control ที่มันแสนจะสนุกสนานเพลิดเพลินได้ออกกำลังและโคตรรรจะ innovative นี่แหละครับ ทำให้เหล่าบริษัทท่านผู้นำที่เหลือต่างมองจ้องตาลุกเป็นไฟ และก็อย่างที่ทราบกันดีว่า แทนที่เราจะได้พบกับ Console ตัวใหม่ Update ตามชั่วระยะเวลาการหมุนเวียนเปลี่ยนซีซั่นแบบที่ผ่านมานั้น เรากลับจะได้ระบบควบคุมแบบ Motion Control มาแทนกับ Sony Move(แท่งหรรษา หรือใครจะเรียน เทียนหรรษาก็ไม่ว่ากัน) และ Kinect ของ Microsoft
บางคนอาจจะตื่นเต้นครับ กับณวัตกรรมใหม่เหล่านี้ ใครที่ชอบหรือติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆมี Iphone มันทุกรุ่น (ซึ่งเค้าก็ออกใหม่ทุกปีนะ) อะไรทำนองนั้นก็คงตื่นตาตื่นใจ แต่สำหรับ Gaming? ณวัตกรรมใหม่นี้นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเกมที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย หรือพูดง่ายๆว่า เกมของคนเล่นเกมจริงๆก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรด้วยเลย (หรืออาจจะมีในอนาคตก็ไม่แน่ แต่โปรดดูภาพ เห็นแล้วอาจละเหี่ยใจ)

การต่อสู้ทางการตลาดคงจะไปฟัดกับเกมอย่าง Wii Sports เกมเต้น หรือว่า Party เกมต่างๆ
ณ ปัจจุบันนี้ก็ถึงจุดที่เกือบจะเรียกได้ว่าสูงสุดของ Console รุ่นปัจจุบันได้แล้ว คือพัฒนาจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว (แล้วที่ใครเคยบอกว่า PS3 ปัจจุบันยังใช้ความสามารถของเครื่องได้ไม่เต็มที่เพราะมัน "แอดแว๊นซ์" เกินไปน่ะมันตรงไหน รอนานแล้วนะ อยากเห็นแบบสุดยอดซักที)
สิ่งที่ในบทความกล่าวถึงตรงนี้ก็คือว่าระบบมันต้องพัฒนาไปพร้อมกันทุกส่วน จะใส่ Eye Toy, Motion Control, Vibrator อะไรมาก็แล้วแต่เถอะ แต่ช่วยเริ่มพัฒนา System ใหม่ด้วย มิฉะนั้นเราก็จะได้เห็นเกมแบบเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาๆไม่รู้จบ

ข้อสันนิฐานอันดับต่อไป ซึ่งอันนี้ผมเห็นด้วยมากนะครับ นั่นก็คือ รสนิยมแบบกระปิดกระปอย หรือภาษาเกมเมอร์ก็คือเหล่า DLC (Downloadable Contents) นั่นเอง
DLC ก็เปรียบเสมือนดาบสองคมอีกเช่นกันครับ เพราะว่านอกจากจะเป็นการเพิ่ม Content ต่างๆสำหรับเกมอันเป็นที่รักยิ่งของเราเกมนั้นๆให้มีอะไรใหม่ๆเล่น ก็เป็นการทำให้การคิดค้นหรือพัฒนาเกมภาคต่อมันช้าลงไปด้วย หรือบางทีก็กลายเป็นทำให้ตัวเกมดั้งเดิมนั้นมี Content น้อยๆไปก่อน แล้วค่อยปล่อย DLC มาหลอกแดกอีกทีในภายหลังด้วยคำโฆษณาชวนจะเชื่อทั้งหลายแหล่ (เรียกว่าออกแบบ กระปิดกระปอย คือค่อยๆออกทีละนิด ไม่ออกมาแบบทั้งหมดในคราวเดียว อย่าคิดเป็นอื่นไปล่ะ)
ตัวอย่างที่ชัดเจนและโดดเด่นเลยก็คือเกม Borderlands ที่ตัวเกมนั้นโดยรวมแล้วค่อนข้างจะสั้น หลังจากเวลาผ่านไปร่วม 2 ปีได้ เกมได้ออก DLC มารวมทั้งหมด 4 ตัว ตัวละ 10 เหรียญ สรุปแล้วเราต้องจ่ายเงินไปกับเกมทั้งหมดกว่า 100 เหรียญ ซึ่งในความเป็นจริงบาง DLC น่าจะรวมมากับตัวเกมภาคหลักซะด้วยซ้ำไป ในขณะเดียวกัน (อันนี้ขอยกตัวอย่างเกมที่ชอบหน่อยละกัน) เกมอย่าง Dragon Quest IX ที่ให้ผู้เล่นได้ Download Quest เสริมต่างๆหลังจบเกมได้ ฟรี! ซึ่งทำให้สามารถะเล่นเกมได้ยาวนานไปถึงกว่า 200 ชั่วโมง
ในบทความยกตัวอย่างกรณี Fable 3 อีก (คนเขียนเค้าชอบ Fable 2 มากและผิดหวังกับภาค 3 มาเหมือนกันเนื่องจากช่วงครึ่งหลังของเกมนั้นน่าเบื่อมากและภารกิจหลังจากเป็น King นั้นก็น่าเบื่อได้อีก) โดยกล่าวว่าการที่จะมี DLC เควสเสริมที่จะแก้ความน่าเบื่อของเควสอันน่าเบื่อในเกมตามออกมา แต่สำหรับผู้เล่นหรือผู้บริโภคต้องจ่ายอีก 10-15 เหรียญเพื่อแก้ปัญหาหรือความห่วยของการออกแบบเกมของบริษัทนั้นๆด้วยหรือ?

ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นผู้เขียนไม่ได้บอกว่า เกมที่กล่าวไปนั้นไม่สนุกหรืออะไร เพียงแต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยสปีดที่เท่าเดิมแบบแต่ก่อน การไปเน้นที่ระบบ Motion Control นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการก้าวถอยหลังสำหรับการพัฒนาเกมและ DLC ก็ทำให้เกมอันแสนแพงนั้นมันหดเล็กลงไปอีก นี่อาจจะเป็นเพียงแค่การกล่าวพรรณาจากการสังเกตุแต่ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนก็คงเห็นเช่นเดียวกับเค้า

สำหรับผมค่อนข้างเห็นด้วยเลยทีเดียว เกมสมัยใหม่ๆนี้มันดูตื่นเต้นตระการตามากกว่าเดิมมากๆก็จริง แต่มันก็ดูฉาบฉวยและมุ่งเน้นการตลาดมากเกินไปในบางกรณี สำหรับผู้ที่อุดหนุนของแท้ทุกคนคงอาจจะคิดแบบเดียวกับผมว่าบางทีจะตามเกมดีๆเกมนึงที่แม๊งงงก็ออกภาคใหม่มาแบบแทบทุกปี บางทีมันก็ไม่ไหวนะ เหล่า Publisher สมัยนี้ด้วยเม็ดเงินมหาศาลก็ดูหน้าเงินเกินไปเหมือนกัน ซึ่งทำให้คิดถึงสมัยก่อนๆที่เกมเกมนึงกว่าจะเข็นออกมาได้นี่บางทีรอกันจนลืม แต่บางเกมที่ดีจริงๆก็หยิบเอามาเล่นใหม่ได้บ่อยๆ บอกตรงๆว่าเกม Xbox360 มีน้อยเกมมากๆที่ถ้าเล่นจบแล้วจะเอามาเล่นอีก อาจจะเรียกว่ามันไม่ คลาสสิค ก็เป็นไปได้ แต่กลับกันทำไมเกมอย่าง Acanum, Diablo 2, Bulder's Gate ก็ยังเอากลับมาเล่นใหม่ได้เรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ทำไมบางคนยังเล่น Heroes of Migth & Magic, Civilization, Sims City ภาคเก่าๆได้อยู่มาเป็นสิบกว่าปี ผมว่าเกมสมัยใหม่มันขาดตรงนี้ไปนะ หรืออาจจะเพราะพออายุมากขึ้น เวลาไม่ได้มีถมถืดเหมือนก่อนๆมันก็เลยไม่ได้แบบอยากติดตามไปซะทุกเกมแบบแต่ก่อนก็เป็นได้ น้องๆหรือเพื่อนๆหลายคนอาจจะไม่เห็นด้วยเพราะอาจจะยังสนุกที่ได้ลองได้สัมผัสความตื่นเต้นใหม่ๆไปเรื่อยๆอยู่ก็เป็นได้

จริงๆแล้วการพัฒนาที่อยากเห็นมันไม่ใช่้แค่เรื่องกราฟฟิคหรือเกมเพลย์หรอก แต่ผมว่ามันหมายถึงแบบรวมๆมากกว่า ยกตัวอย่าง company of heroes มานี่แหละใช่เลยเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ทั้งที่เรื่องราวภายในเกม + โลกเกมมันก็สงครามโลกครั้งที่สองที่ถูกใช้มาจนพรุนแล้วพรุนอีกนี่แหละ แต่ผมถือว่า COH คือ 1 ในเกมที่เป็นการก้าวไปข้างหน้า เป็นการวางรากฐานใหม่ให้กับเกม RTS อย่างแท้จริงเกมหนึ่งเลย

อีกอย่างเลยที่ผมอยากจะพูดก็คือ จริงๆแล้วเราต้องการอะไรที่มันแปลกใหม่จริงๆหรือเปล่า? อยากให้ทุกคนได้ถามตัวเองเหมือนกัน ใช่ครับที่ความแปลกใหม่มันเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งแค่ทำสิ่งเก่าๆให้มันออกมาดีสมบูรณ์แบบจริงๆผมว่าผมก็รับได้นะ มันเป็นคนละส่วนกันคืออย่าง เกมที่สร้างความแปลกใหม่จริงๆอันนั้นก็น่ายกย่อง แต่เกมที่ "ดี" จริงๆถึงจะไม่ต้องแปลกใหม่อะไรมากแต่ของดีก็น่าสนับสนุนเหมือนกัน
ในกรณีที่บทความกล่าวไปผมว่าส่วนใหญ่โดยรวมนั้นหมายถึงพวกเกมที่มุ่งหวังทาง การตลาด เอาภาคเก่ามาเขย่าๆใส่ขวดใหม่สวยหรูหน่อยแล้วมาหลอกแดกตังผู้บริโภคอะไรแบบ นั้นมากกว่า ซึ่งตลาดเกมในปัจจุบันหลายเกมที่เป็นแบบนั้นเลยเอาจริงๆ

เรื่อง Nintendo ก็เป็นอีกส่วนที่จริงครับที่ถึง IP เก่าลายครามหลายตัวถูกเอามาทำโน่นทำนี่แนวโน่นแนวนี่ ซึ่งบางครั้งก็น่ายกย่องมาก อย่าง Mario&Luigi Bowser's Inside Story ภาคล่าสุดเนี่ย เป็นเกมที่ถือว่า Entertain มากๆเกมหนึ่งและผมยอมซื้อของแท้เลยเช่นกัน เกมอย่างพวก Mario Cart หรือ Party ที่ออกมายังไงก็ยังมีคนเล่นก็ยังขายได้อยู่วันยังค่ำ ผมถึงบอกไปว่าจริงๆมันแบ่งเป็นสองประเด็นคือ เกมที่สร้างความแปลกใหม่ กับเกมที่มันดีจริงๆ ยังไงมันก็ขายได้และน่าเชิดชู ไม่เหมือนอีกหลายๆเกมที่ฉาบฉวยยอดขายอาจจะดีในช่วงแรกที่วางตลาด แต่อายุการใช้งานหรืออายุในการเล่นนั้นมันช่างต่ำซะจนน่าใจหาย

เรื่อง Kinect นี่อยากขยายความ เพราะจากที่ Update Dashboard ล่าสุดรวมกับการได้กวาดตาดูและหาข้อมูลเกมที่โปรโมตรออกมาในช่วงแรกนี้ บอกตรงๆว่าผมหมดความสนใจไปค่อนข้างเยอะเหมือนกันทั้งๆที่ตอนที่เผยข้อมูล Kinect ออกมาแรกๆนี่ก็ค่อนข้างตื่นเต้นนะครับ ซึ่งผมไม่ได้บอกว่ามันเรื่องที่แย่หรือห่วยอะไรนะ แต่เท่าที่ดูรายนามเกมที่จะออกมันเน้นกลุ่ม Casual มากๆ เรียกว่าเต็มๆเลยก็ว่าได้ พวก Kinect Adventures หรือพวกเกม Dance ทั้งหลาย บอกตรงๆว่ายังไม่โดน อยากถามพวกเราเหล่าเกมเมอร์เหมือนกันว่าเกมที่อยู่ในลิสต์ปัจจุบัน พวกคนอย่างเราๆเนี่ยสนใจเกมไหนจริงๆจังๆบ้างมั้ย สำหรับผมบอกได้เลยว่ายังไม่มี
แต่อย่างที่ว่า ผมไม่ได้บอกว่า Kinect มันห่วยหรืออะไร เพียงแต่เท่าที่เห็นในตอนนี้กลุ่มตลาดมันยังไม่ใช่ ในอนาคตก็อาจจะไม่แน่ อาจจะมีเกมที่ดีหรือเกมที่เหมาะสำหรับ Gamer จริงๆสำหรับเล่นกับ Kinect ก็เป็นไปได้ ก็ต้องรอกันต่อไป แต่ก็อยากให้ลองคิดตรึกตรองกันล่ะครับว่าเกมเมอร์อย่างเราๆอยากได้ Motion Control กันจริงๆหรือเปล่า และจะเอาไปทำอะไร?

สรุปอีกทีว่า มันคงเป็นความคิดของคนที่มีอายุมีความรับผิดชอบอย่างอื่นมากขึ้นด้วย หมายถึงว่าเราไม่ได้มีเวลาเล่นเกมแบบทั้งคืนทั้งวันแบบก่อนๆ แบบเล่นเกมใหม่ๆอาทิตย์เดียวจบได้ (เกมล่าสุดที่เล่นแบบจริงจังและจบเร็วหน่อยสำหรับผมคือ Risen ครับ) เลยอาจจะทำให้ผมมีไอเดียที่ค่อนข้างจะต่อต้านพวกการตลาดสำหรับเกมในปัจจุบัน นี้อยู่บ้าง อย่างพวกเกมอย่าง Mass Effect, Dragon Age ที่ออกภาคใหม่ปีต่อมา พูดตรงๆเลยว่าภาคแรกยังเล่นไปไม่ถึงไหนเลยมีภาคใหม่ออกมาอีกแล้วหรือ บางทีมันเลยเกิดความรู้สึก ขี้เกียจจะตาม ขึ้นมาบ้าง ความคิดนี้อาจจะไม่เกิดกับเพื่อนๆน้องๆที่ติดตามเกมนั้นๆอย่างจริงจัง ก็คงเป็นผลดีที่ได้เล่นภาคต่อ(ครึ่ง)แบบไม่ต้องรอนาน และภาคต่อมันก็ไม่้ใช่จะแย่เสมอไป บางเกมก็ทำออกมาดีมากจริงๆก็ยอมรับครับ แต่สำหรับผมอยากได้เกมที่แบบเล่นไปได้นานๆหลายๆปีมากกว่าก็เท่านั้นเองครับ

ก็ขอฝากไว้เท่านี้ละกันครับ

แกะกล่อง StarCraft 2 Collector's Edition US

Tuesday, July 27, 2010
เกมที่เกมเมอร์แทบจะทุกคนเฝ้ารอ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเมนในรอบ 10 ปีเลยก็ว่าได้ครับ กับการแกะกล่องเกมที่จะคงอยู่้บนโลกนี้ไปอีกนานแสนนาน (อีก 10 ปี แก่พอดี) ดังนั้นเนื่องในโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตการเล่นเกม ก็เลยบันทึกช่วงเวลาที่แกะกล่องเกมนี้ครั้งแรกเพื่อจดจำความตื่นเต้นนี้ไปอีกนานๆก็แล้วกันนะครับ

Previously on Alan Wake!

Thursday, May 27, 2010

หลังจากที่ไม่ได้มีเวลาเล่นเกมมาพักใหญ่เนื่องจากติดการเรียน ตอนนี้ผมก็ได้ผ่านชีวิตการเป็นนักศึกษาครั้งที่ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็คงหางานและทำงานดำเนินชีวิตต่อไป
แต่เอาล่ะครับ หลังจากที่พอมีเวลาเล่นเกมบ้างละช่วงนี้ก็ขอจัดหนักกับ Alan Wake เกมที่เรียกได้ว่ามาแรงมากๆในช่วงเดือนนี้เคียงข้างกับ Red Dead Redemption เลยทีเดียว

หลังจากที่ได้ลองเล่นไปนิดหน่อย ได้สัมผัสบรรยากาศของเกมไปบ้าง ผมก็พบว่า Alan Wake นั้นดำเนินเรื่องแบบเป็น Chapter เหมือนทีวีซีรี่ย์เลยทีเดียว
แหม พอพูดถึงซีรี่ย์ก็ต้องขอแวะข้างทางนิดนึงกับซีรี่ย์ Lost ที่เพิ่งจะจบไปได้ไม่นานหลังจากผ่านมา 6 ซีซั่น ซึ่งต้องขอบอกว่าสุดยอดจริงๆครับ ยังไงใครยังไม่เคยดูหรือเลิกดูกลางคันไปก่อนก็ขอแนะนำให้ดูให้จบครับเพราะซีซั่นหลังๆนั้นเข้มข้นมากๆ

เอาล่ะกลับมาเรื่องเกมหน่อย เกมที่ดำเนินเรื่องแบบเป็น Episode นั้นไม่ได้เริ่้มต้นที่ Alan Wake เพราะหลายๆคนคงได้เคยสัมผัสมาบ้างแล้วอย่าง Half-Life 2, Sam&Max แต่ใน Alan Wake นั้นพยายามสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับหนังซีรี่ย์ทีวีมากที่สุด แบบว่ามีทั้งเพลงจบตอนและ Preview ก่อนขึ้น Episode ต่อไป (Previously on Alan Wake! แหมนึกถึง Lost ขึ้นมาเลยทีเดียว) ซึ่งก็ได้อารมณ์แปลกไปอีกแบบ

ส่วนตัวแล้วผมเฉยๆนะกับการแบ่งบทออกเป็น Episode ก็ไม่ได้รู้สึกดีหรือแย่อะไร ก็แปลกดีครับ แต่อีกแง่นึงก็รู้สึกถึงการตลาดที่แฝงมาอยู่นิดๆเหมือนกันเนื่องจากเกมสามารถขาย Episode เสริม ต่อ แยกย่อย ออกไปได้อีกซึ่งก็เป็นช่องทางการทำกำไรอย่างหนึ่ง

เรื่องรายละเอียดของเกมหลายๆคนคงพอทราบแล้วหากอ่านจาก Review ตามที่ต่างๆ ส่วนตัวต้องยอมรับว่าบรรยากาศในเกมทำออกมาได้ดีมากครับ แต่ว่าผมกลับชอบโทนสีซีดๆแบบตอน In game Cut scene มากกว่าในตัวเกมจริงเพราะรู้สึกว่ามันสมจริงกว่า
Animation ในเกมนั้นทำออกมาได้ดี อาจจะรู้สึกขัดๆบ้างในเรื่องของ Lip Sync หรือการขยับของปากที่เหมือนกับพูดยีงฟันตลอดเวลามันดูแปลกๆ
นอกเหนือไปจากนั้นแล้วเกมถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว

The Making of Silent Hill 2

Monday, April 19, 2010
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลาเล่นเกมเท่าไหร่ครับ เลยหาวีดีโอ The Making of Silent Hill 2 มาฝากจาก Destructoid ครับ นำเสนอได้น่าสนใจดีมากๆ









เอาจริงๆตอนนี้ก็เล่นประปรายพวก Plants VS Zombies หรือ Supreme Commander 2 บ้างนิดหน่อย
ไว้จะพูดถึง SupCom 2 อีกทีถ้ามีเวลา่นะครับ

March's Games

Wednesday, March 3, 2010

ช่วงต้นปีืที่ผ่านมานี้ไม่ค่อยได้มีเวลาเล่นเกมเท่าไหร่ครับ Bayonetta ที่ได้มาตั้งแต่ต้นปียังเล่นไปได้ครึ่งนึงเอง แล้วไหนจะมี Final 13 ที่กำลังจะออกในอาทิตย์หน้านี้อีกล่ะ นอกเหนือไปกว่านั้นยังมี Chaos Rising ที่กำลังจะออก

ส่วนสำหรับ Supreme Commander 2 ที่ได้รับคำวิจารณ์ค่อนข้างดี แต่ลูกค้าหลายรายบ้นเรื่องต่อ Steam ในการติดตั้งและการเล่น รวมไปถึง DRM ด้วยเลย ก็เลยคิดว่ารอให้เกมราคาลงกว่านี้แล้วค่อยซื้อมาเก็บก็แล้วกัน (โรคจิตดีมะ ซื้อเกมมาไม่ค่อยได้เล่น)

แต่ว่า เกมที่ผมคงจะได้เล่นบ่อยกว่าเกมอื่นๆคงจะเป็น Yu Gi Oh 5D 2010 นี่แหละครับ อาจจะเพราะว่างๆหรือเบื่อๆก็หยิบขึ้นมาเล่นได้เลย เล่นสองสามตาก็เลิกได้ ไม่เหมือนเกมอื่นๆที่ต้องตั้งใจนั่งเล่นจริงๆเป็นเวลานานๆ

สงสัยจะแก่แล้วจริงๆแฮะเรา = ="

Ghost Recon: Future Soldier teaser

Tuesday, February 9, 2010

Armored Core 5 Bigger Stage, Smaller AC

Friday, January 15, 2010
มาแล้วครับ ข้อมูลคร่าวๆของ Armored Core 5 จากการเปิดตัวโดย Toshifumi Nabeshima Producer ของเกม โดยรายละเอียดของภาคนี้คร่าวๆมีดังนี้

- ด่านและภารกิจจะใหญ่และมีรายละเิอียดมากยิ่งขึ้น
- มีรายละเิอียดของด่านและการเล่นมากขึ้นอย่างเช่นการลอบโจมตีด้วยการพุ่งขึ้นด้านบนแล้วฟันด้วยดาบ
- หุ่นยนต์ที่มีขนาดเล็กลง จากของเก่าที่ใหญ่ประมาณ 10 M ลงมาเหลือ 5 M ซึ่งนำมาซึ่งแผนในการรบแบบใหม่ๆด้วย


- หุ่นยนต์จะดูเป็น "อาวุธสงคราม" มากกว่าเดิม และดูสมจริงมากขึ้นกว่าเก่า
- Multiple Mission Objective ที่เป้าหมายของภารกิจอาจจะเปลี่ยนไปได้ด้วยผลของการกระทำของเรา
- Online Multiplayer จะเปลี่ยนไปและมีเป้าหมายให้ทำมากขึ้นไม่ใช่แค่สู้กันอย่างเดียว

ตอนนี้เกมเสร็จไปแล้วประมาณ 20% ครับ คงต้องรอกันต่อไป

Armored Core 5 : Begining

Monday, January 11, 2010
Armored Core ซีรี่ย์เกมขับหุ่นยน Action ที่ผมชื่นชอบมากกำลังจะมีภาค 5 ออกมาแล้วครับ หากเข้าไปเยี่ยมเยียน Website Official ของ Armored Core จะเห็นทีเซอร์นี้อยู่ คาดว่ารายละเอียดของเกมภาคใหม่จะเปิดเผยออกมาในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ ยังไงรอติดตามชมกันก็แล้วกัน

ARMORED CORE 5 SITE

DAWN OF WAR JOURNAL

Monday, January 4, 2010
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกระทู้ในพันทิปห้องเกมถามถึงเนื้อเรื่องของ Dawn of War ในฐานะแฟนเหนียวแน่นของซีรี่ย์ก็เลยขออธิบายสรุปคร่าวๆถึงเนื้อหา หรือสาเหตุของสงครามในแต่ละภาคแบบคร่าวๆนะครับ

DAWN OF WAR รุ่งอรุณแห่งสงคราม


ณ ดาว Tartarus ดาวภายใต้การปกครองของ Imperial ได้ถูกกองทัพ Ork บุกโจมตีอย่างหนัก Space Marine ภายใต้ธง Blood Ravens หน่วยที่ 3 นำโดย กัปตัน Gabriel Angelos จึงได้เดินทางมาที่ดาวดวงนี้เพื่อกอบกู้สถานการณ์ หลังจากการปะทะกันอย่างหนัก Librarian นาม Isador ได้ตามมาสมทบ เพราะรู้สึกได้ว่าจิตใจของ Gabriel นั้นไม่สงบอันเนื่องมาจากดาวบ้านเกิด Cyrene ได้ถูกทำลายลง

หลังจากไล่ล่าจัดการกับเหล่า Ork หน่วย Scout ได้รายงานว่าผม
เห็นพวก Chaos บนดาวดวงนี้ จากนั้นไม่นาน Inquisitor Mordecai Toth เลยเดินทางมา
ถึงและสั่งให้ทุกคนอพยพออกจากดาวอันเนื่องมาจาก Warp Strom กำลังจะมาถึงและจะดูดกลืนดาวในอีก 3 วัน

Gabriel ปฏิเสธที่จะละทิ้ง Tartarus ไป

หลัง จากนั้นเหล่าทหาร Blood Ravens จึงได้สำรวจดาว Tartarus ต่อไปจนได้พบกับพวก Eldar และได้ปะทะกัน หารู้ไม่ว่า Isador ได้ถูก Chaos Sorcerer ควบคุมจิตใจเอาไว้แล้ว
เมื่อกองทัพของ Eldar แตกพ่าย ผู้นำ Farseer Macha จึงขอร้องให้ Gabriel เป็นคนดูแล Artifact Maledictum ชิ้นสำคัญต่อไป
ภาย หลัง Toth จึงได้เล่าประวัติของ Tartarus ให้กับ Gabriel ฟังว่า ดาวดวงนี้ถูกสาปเพราะมีเจ้า Maledictum ซึ่งกักปิศาจอยู่ โดยผู้ที่กักไว้ก็คือพวก Eldar
และเหตุผลที่พวก Eldar ต้องต่อสู้ก็เพื่อปกป้อง Maledictum เอาไว้


หลังจากนั้นไม่นาน Isador ได้ถูกครอบงำโดยสมบูรณ์และได้ขโมย Maledictum หนีไป

Toth จึงได้ตาสว่างและสารภาพว่า ตอนแรกที่มานั้นได้รับรู้ว่ามีนายทหารชั้นสูงของกองทัพถูกครอบงำโดย Chaos แต่เขาสงสัยในตัว Gabriel
หลังจากนั้น Gabriel จึงนำกองกำลังเข้าตีกับกองกำลังของ Isador และจัดการกับผู้ทรยศในที่สุด

ในขณะนั้น Chaos Sorcerer ก็ได้ใช้พลังของ Maledi
ctum และกลายร่างตนเองเป็น Demon Prince

Toth มอบ Daemon Hammer ให้กับ Gabriel และด้วยความร่วมมือของ Eldar เหล่า Space Marine จึงได้กำจัด Chaos และ Demon Prince ลงได้
ในท้ายที่สุด Farseer ได้ขอร้อง Gabriel ว่าอย่าทำลาย Maledictum แต่ Gabriel เชื่อในการตัดสินใจของตนจึงได้ทำลาย Maledictum ลง
เหล่า Eldar เปิด Warp Gate และอพยพไปจากดาวพร้อมคำก่นด่าส่งท้ายว่า Gabriel คือผู้ที่นำความพินาศมาสู่พวกตน

สิ่งที่ปรากฏจากการทำลาย Maledictum ก็คือ Daemon of Khorne หนึ่งใน 4 เทพเจ้าอันเก่าแก่ของเหล่า Chaos นั่นเอง
Khorne ปล่อยให้ Gabriel และกองทหาร Space Marine หนีรอดพร้อมกับคำขอบคุณที่ปลดปล่อยมันออกมาเป็นอิสระ พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาเก็บชีวิต
พวกเขาในภายหลัง


ส่วน Gabriel ก็ให้สัญญาว่าจะต้องทำลาย Daemon of Khorne ลงให้จงได้ ก่อนจะอพยพหนีออกจาก Tartarus

จบ DAWN OF WAR

------------------------------------------------------------------------------------------------

WINTER ASSUALT หายนะกลางหิมะ


หลังจากนี้เนื้อเรื่องจะแยกออกไปแล้วแต่ฝ่าย แต่ผมขอกล่าวถึงแค่ของ Space Marine และฝ่ายเดียวกันเป็นหลักก็แล้วกันนะครับ

Lorn V ดาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งถูกยึดครองโดยเหล่า Chaos และ Ork ตามประวัติกล่าวไว้ว่าที่ดาวดวงนี้มีอาวุธอันเก่าแก่ของ Imperial นาม Titan Dominatus อยู่ เหล่า Ultramarines พร้อมทีมนักบิน Titan จึงได้เดินทางมาล่วงหน้า ส่วนฝ่าย Imperial Guard นำโดย General Sturnn ได้เดินทางมา
สมทบ โดยมี Eldar คอยตามช่วยอยู่ห่างๆ แต่เหตุผลการปรากฏตัวของ Eldar ที่ดาวดวงนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด

Eldar ที่ต้องประสบปัญหากับเหล่า Ork ได้ขอความช่วยเหลือไปทาง General Sturnn เพื่อรับมือกับกองทัพ Ork
ภาย หลังจึงได้รู้ว่า ที่ Eldar ปรากฏตัวนั้นไม่ใช่เพราะสนใจใน Titan เหมือนกับฝ่ายอื่น แต่นั่นเพราะ Necron ที่หลับไหลอยู่ใต้พื้นดวงดาวมานับพันปีกำลัง
จะตื่นขึ้น Eldar มาเพื่อทำลาย Necron ก่อนที่จะสายเกินไป

Eldar นำโดย Farseer Taldeer ได้เข้าถึงตัว Titan ก่อน แต่อย่างที่บอกว่า Eldar ไม่ได้สนใจในตัว Titan แต่ต้องการทำลาย Necron ที่ตื่นขึ้นมาและ
สังหารเหล่า Chaos และ Ork จนสิ้นซาก เป้าหมายของ Taldeer คือการทำลาย Monolith ฐานของฝ่าย Necron ด้วย Soul Stone แต่หลังจากทำลาย
Monolith ลงได้กลับมี Monolith อีกหลายลำปรากฏขึ้น Taldeer จึงได้ต่อรองกับ Sturnn เพื่อใช้พลังของ Titan ทำลาย Necron ลงได้ในที่สุด
หลัง จากนั้น Titan ได้ระเบิดอันเนื่องมาจากการใช้งานหนัก Taldeer และฝ่าย Eldar หลบหนีออกจาก Lorn V ได้ทันท่วงทีส่วนฝ่าย IG นั้นชะตากรรมเป็น
เช่นไรไม่มีใครทราบ
(นี่ เป็นตอนจบของฝ่าย Eldar ที่คิดว่าน่าจะลงตัวกว่าของฝ่าย IG อันเนื่องมาจากตอนจบของฝ่าย IG นั้น Taldeer ยอมตาย แต่ Taldeer เป็นผู้นำฝ่าย Eldar

ใน Dark Crusade จึงคิดว่าตอนจบของ Eldar ใน WA นี้น่าจะสมบูรณ์ที่สุดครับ)

จบ WINTER ASSUALT
------------------------------------------------------------------------------------------------

DARK CRUSADE สงครามแห่ีงความมืด


ภาคนี้และ SoulStorm เล่ายากเพราะว่าแต่ละฝ่ายก็มีเนื้อเรื่องของตัวเองครับ
คร่าวๆเลยก็

เหตุ เกิดบนดาว Kronus ดาวที่ถือว่าอับโชคสุดๆก็ว่าได้เพราะว่านอกจากมนุษย์จะถูกกดขี่โดย Tau แล้ว Imperial Guard ก็มาเพื่อปลดปล่อยมนุษย์ให้เป็นอิสระจาก Tau


ใน ขณะเดียวกัน Kronus ก็มี Necron จำศีลอยู่เช่นกัน Eldar นำโดย Farseer Taldeer จาก WA ก็เลยต้องตามมายับยั้ง Necron ก่อนที่จะพวกมันจะขยายกำลังออกไปในจักรวาลและรุกรานดาวอื่นๆได้


ซวย ซ้ำซวยซ้อน ดาวนี้ก็มี Relic เมื่อครั้งสงคราม Horus Heresy อยู่อีก (Horus เป็นชื่อของทหารผู้นำกองกำลัง Luna Wolves ของ Imperial และได้กลายเป็นฝ่าย Chaos ในท้ายที่สุด )

Blood Ravens กับ Chaos Word Bearers ก็เลยต้องมาปะทะกัน ส่วน Ork นำโดย Gorgutz Warboss แมลงสาปที่ไม่เคยตาย (เพราะหนีออกมาก่อนดาวระเบิดได้ทุกที) ก็มาถึง Kronus เพื่อรวบรวมกองกำลัง Ork ขึ้นใหม่ หากจะถามว่าทำไม Space Marine (นำโดย Davian Thule) ต้องปะทะกับ Imperial Guard (นำโดย Lukas Alexander) ก็ต้องอธิบายว่าทาง IG ต้อง การ ยึดกองกำลังของตัวเองอยู่ที่ชิ้นส่วนปืน Titan ที่ Victory Bay ใกล้กับ Hellstorm (สรุป Kronus มีทุกอย่างเลยจริงๆ) และไม่ต้องการจะเปิดทางผ่าน ให้ กับใครไม่เว้นแม้แต่ Space Marine ก็เลยเกิดการปะทะกันขึ้น มีทหารของ IG บางส่วนที่ทรยศฝ่ายตัวเองแล้วมาเข้าร่วมกับ Space Marine แต่ภายหลัง
เมื่อ IG แพ้ กองทหารเหล่านั้นก็ถูกสังหารเรียบเนื่องจากทรยศเพื่อนของตน ส่วน Alexander และกองกำลังที่เหลือนั้นถูกจับกุมแต่ก็ถูกยกย่องและสดุดี ในความซื่อสัตย์และกล้าหาญ ส่วนฝ่าย Space Marine หลังจากเหตุการณ์บน Kronus ก็ถูกสอบสวนไปตามระเบียบอันเนื่องจากทำเกินกว่าเหตุ สรุปตอนท้าย ฝ่าย Ork Gorgutz ยังคงหนีตายไปได้เช่นเดิม Farseer Taldeer ยอมสละชีพตนเองเพื่อให้เหล่าทหารของเธอหลบหนีไป Commander ของ Tau หลบหนีไปได้หลังจากผู้นำถูกสังหาร Alexander และฝ่าย IG ถูกจับกุม Necron ถูกยับยั้งไว้ได้อีกครั้ง Eliphas Chaos Lord ถูกสังเวยชีวิตอัน เนื่องจากทำงานล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง

จบ DARK CRUSADE

------------------------------------------------------------------------------------------------

SOULSTORM พายุมหัตภัย


จากการปรากฏของ Warp Storm ใกล้กับดาว Kaurava IV ทำให้เหล่าปิศาจของฝ่าย Chaos ปรากฏตัวขึ้นและฆ่าล้างประชากร เป้าหมายของ Chaos ก็เพื่อหวังยึดดวงดาวเป็นที่มั่นสร้างกองกำลังเพื่อต่อกรกับฝ่าย Imperial

ทหารฝ่าย Imperial Guard นำโดย General Vance Stubbs
General หน้าใหม่ เลยรวบรวมกำลังเข้าต่อต้านเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองไปด้วยในตัว


ที่ดวงจันทร์ใกล้เคียงกัน ฝ่าย Tau ก็มาถึงและตั้งฐานทัพพร้อมกับสร้าง Canon ที่มีพลังทำลายสูงขึ้นเพื่อหวังจะขยายอาณาเขตของตน

การ ปรากฏของ Chaos ทำให้ Space Marine Blood Ravens ต้องมาถึง เมื่อมาถึงแล้วพบว่าศัตรูอยู่รอบข้างจึงต้องตัดสินใจทำลายล้างให้สิ้น รวมไปถึงพวก IG ที่ถูกสงสัยว่าถูกครอบงำโดยพวก Chaos อีกด้วย

การปรากฏของ Warp Storm ก็ทำให้พวก Necron ตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน และก็ตามมาด้วย Eldar ที่ตามมายับยั้งอีกเช่นเคย

ณ มุมมืดอีกด้านหนึ่งฝ่าย Dark Eldar ก็ปรากฏกายขึ้นเพื่อหวังจะเก็บวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอันเนื่องมาจากผลของ สงครามที่กำลังปะทุขึ้นนั่นเอง เรียกว่าแอบหวังผลกำไรแบบลับๆ

พวก Ork หลังจากก่อนหน้านี้ถูกกองกำลัง IG ตีแตกพ่ายไป แต่การมาถึงของเจ้าแมลงสาป Gorgutz ก็ทำให้พวก Ork ที่หนีทัพกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

สุดท้ายและท้ายสุดก็คือการมาถึง ของ Sisters of Battle ที่ต้องการมา "ชำระล้าง" ทุกสิ่งอย่างบนระบบ Karuva นี้ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ Space Marine และ Imperial Guard ด้วย

สงครามของทั้ง 9 ฝ่ายก็ประทุขึ้นเช่นนี้เอง

ตอน จบที่น่าจะถูกต้องที่สุดกล่าวว่าน่าจะเป็นชัยชนะของ Imperial Guard ตามที่กล่าวไว้ใน Dawn of War 2 อันเนื่องมาจากการสูญเสียกองกำลังจำนวน
มากกว่าครึ่งของฝ่าย Space Marine ซึ่งนั่นรวมไปถึงผู้นำ Commander Indrick Boreale อีกด้วยครับ


จบ SOULSTORM ครับผม

Might & Magic: Clash of Heroes

Sunday, January 3, 2010
สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ
ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เล่นเกมเท่าไหร่เพราะทำแต่งาน เลยห่างหายไปจากวงการพอสมควรครับแหะๆ

แต่กลับมาวันนี้อยากมาเล่าถึงเกมที่ทำให้ผมกลับมาเล่น DS อีกครั้ง นั่นก็คือ Might & Magic Clash of Heroes นั่นเองครับ
เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นเคยกับซีรี่ย์ Heroes of Might & Magic หรือ Might & Magic กันอย่างดีเพราะเป็นเกมที่ออกมาสร้างชื่อเสียงมานานพอสมควรแล้ว
สำหรับ Clash of Heroes ก็ต้องขอบอกว่าเป็นการเปิดโลกของ Might & Magic ไปอีกแนวทางนึงได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

แนวทางใหม่ที่กล่าวถึงก็คือการผสมผสานระบบการเล่นแบบเกม Puzzle เข้ามาในฉากต่อสู้ครับ เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีพอสมควรเลยทีเดียว


ระบบ Puzzle ที่กล่าวไปก็คือ การเรียงตัวทหารชนิดและสีเดียวกันของฝ่ายเราให้ได้ 3 ตัวขึ้นไปจะเป็นการโจมตี นอกจากนั้นยังมีการทำกำแพงโดยเรียงยูนิตชนิดและสีเดียวกัน 3 ตัวในแนวนอน เท่านั้นยังไม่พอยังมีการผสมผสาน Combo ต่างๆเข้าไปทั้งการ Link Attack หรือ Fusion รวมไปถึงยูนิตใหญ่ที่ต้องซื้อมาเข้ากองทัพ (ยูนิตทั่วไปไม่ต้องซื้อครับ)
เนื้อเรื่องในภาคนี้ออกจะไปทางเกม Fantasy ฝั่งญี่ปุ่นซักหน่อย รวมไปถึงทั้งภาพวาดตัวละครแนว Anime อีกด้วย

ตัวเกมค่อนข้างยากเพราะว่ายูนิตใหญ่ที่ต้องใช้ Resource ซื้อไปนั้นถ้าตายไปในฉากต่อสู้่ก็จะเสียไปเลยต้องไปซื้อมาเพิ่มใหม่ และเกมนั้นเก็บ Level ได้ไม่อิสระเท่าไหร่ ทำให้การสู้กับหัวหน้าตัวใหญ่ๆตอนท้ายๆของ Chapter จะค่อนข้างยากครับ ต้องวางแผนการใช้ยูนิตเอาไว้ให้ดีๆเลยทีเดียว


ก็สำหรับแฟนๆ DS รวมไปถึงแฟน Heroes of Might & Magic ถ้าช่วงปีใหม่นี้ไม่มีอะไรเล่นก็อย่าลืมหา Might & Magic Clash of Heroes มาลองเล่นกันดูล่ะครับ