Steam Games Review July 2011

หายหน้าหายตาไปนานอีกแล้ว กลับมาคราวนี้ขอมารีวิวเกม PC เล็กๆบน Steam ที่ผมได้มีโอกาสได้ลองในช่วงเดือน - สองเดือนที่ผ่านมานี้หน่อยก็แล้วกันนะครับ เพื่อจะได้ช่วยในการตัดสินใจของใครหลายๆคนที่กำลังเล็งๆเกมนั้นๆอยู่ก็แล้วกัน


Dead Horde
เกมแรกเพิ่งออกสดๆร้อนๆเลยกับ Dead Horde เกมแนว Twin (sticks) shooter ที่เรียกแนวแบบนี้เนื่องมาจากที่มามันมาจากเกมคอนโซลครับที่ใช้ปุ่มทิศทางข้างซ้ายบังคับการเคลื่อนไหวส่วนตัวโยกทางขวาใช้ในการบังคับทิศทางในการยิงอย่างเกม Geometry Wars ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี
สำหรับ Dead Horde เราจะรับบทเป็นนายทหารเข้าสู่พื้นที่ต่างๆเพื่อกำจัดซอมบี้ ปืนที่ใช้หลักนั้นมีกระสุนให้ไม่จำกัดแต่อย่างอื่นอย่างระเบิดหรือปืนยิงใบเลื่อยมีกระสุนน้อยมากและต้องซื้อกระสุนเติมหรือหากล้องกระสุนเก็บเอาซึ่งก็หายากมากเช่นกัน
อาวุธสามารถอัพเกรตได้ที่ร้านค้าที่จะอยู่กระจายตามฉาก สามารถเพิ่มความจุกระสุน ความเร็วในการยิงและ Damage ได้ โดยเงินที่ได้ก็มาจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย
ฉากในเกมค่อนข้างใหญ่พอสมควร ฉากนึงใช้เวลาเล่นน่าจะประมาณ 15-20 นาทีได้ซึ่งความยาวก็โอเคครับ
ซอมบี้ในเกมวิ่งเร็วมาก โดยเฉพาะซอมบี้ตัวอ้วนที่อึดกว่าซอมบี้ธรรมดานั้นยิ่งวิ่งเร็วเข้าไปใหญ่ (แปลกมั้ย) แถมซอมบี้แต่ละตัวก็อึดใช่เล่นเลยครับ
เกมมีระบบ Physic ที่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ในความคิดผม จะมีบ้างบางจุดที่อาจจะต้องแก้ปริศนาเล็กๆบ้างเพื่อผ่านสิ่งกีดขวาง ในเกมมีรถให้ขับหลายคันซึ่งก็ถือว่าโอเคทำให้ไม่จำเจดี
แถมท้ายเกมมีระบบ Co-op ทั้งแบบ Local และ Online ซึ่งน่าจะเป็นจุดแข็งของเกมเลยก็ว่าได้ (สังเกตุที่เมนูหลัก Co-Op Mode เป็นตัวเลือกแรกเหนือ Single Player อีก)

โดยรวมถือว่าเกมโอเคไม่ได้แย่มาก แต่เอาจริงๆนะครับ พูดจริงๆนะ Zombie Shooter สนุกมันสะใจกว่า คือเกมคล้ายกันเลยประมาณ 80% แต่ Zombie Shooter สนุกกว่าโดยรวม ข้อดีของ Dead horde ก็อย่างที่บอกคือ Co-op ครับ ถ้าใครมีเพื่อนเล่นและชอบเกมยิงซอมบี้ก็ลองซื้อมาเล่นดูได้ แต่ถ้าเล่นคนเดียว Zombie Shooter สนุกกว่าครับ


Legend of Fae
เกมนี้น่าสนใจทั้งเรื่องเกมพลย์ที่คล้ายกับ Puzzle Quest (match 3 gems) และ Art work ที่สวยดีใช้ได้ เรารับบทเป็น Claudia เด็กสาวที่สามารถมองเห็นภูตตามธาตุต่างๆได้ ตัวเกมหลักก็จะดำเนินเรื่องไปตามฉากหรือ Level โดยการที่เราจะดำเนินเรื่องไปได้ต้องเรียงลูกแก้วที่มีเครื่องหมายเดินอยู่เพื่อเดินไปข้างหน้า (ไอเดียนี้แปลกดีชอบครับ) ส่วนเวลาต่อสู้ก็คือต้องเรียงลูกแก้วตามธาตุต่างๆเพื่อใช้ภูตของธาตุนั้นๆโจมตีซึ่งก็คงพอจะเดากันได้นะครับว่าพอมีเรื่องของธาตุมาเกี่ยวแล้วก็ตามปกติ ไฟชนะไม้ ไม้ชนะสายฟ้า สายฟ้าชนะน้ำ น้ำชนะไฟ อะไรแบบนี้ ตอนต่อสู้จะต่างจากเกมอื่นๆอย่าง Puzzle Quest ตรงที่จะไม่มีการสลับเทริน คือเป็นเราเท่านั้นที่เรียงลูกแก้วให้ได้เหมือนกัน 3 อันขึ้นไปเพื่อโจมตี ส่วนศัตรูจะโจมตีเรามาเรื่อยๆ จะมีทั้งโดนพิษ (ลดพลังไปเรื่อยๆ) ทั้งตาบอด (ทำให้มองไม่เห็น Gem อื่นๆยกเว้น Gem ที่กำหนด) ซึ่งก็แปลกดีครับ
แต่.....ประเด็นสำคัญที่อาจทำให้หงุดหงิดก็คือ เราสามารถสลับ Gem ได้ในแนวนอนเท่านั้น ..... ครับสลับ Gem แนวตั้งไม่ได้ได้แค่แนวนอน ซึ่งก็ทำให้บางทีการเรียงลูกแก้วมันก็ยากกว่าที่คิดและหงุดหงิดใจเหมือนกันโดยเฉพาะตอนที่สู้กับ Boss ของฉาก
หลักจากจบฉากเราจะได้ค่าอัพเกรตมาสามารถอัพเกรตเลเวลให้กับธาตุต่างๆทั้ง 4 ได้ โดยก็จะทำให้ความรุนแรงหรือผลที่ได้จากธาตุนั้นๆสูงขึ้นตามไปด้วย

โดยรวมตัวเกมโอเคแต่อาจจะไม่ได้สนุกมากนัก เนื้อเรื่องพอติดตามได้แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เกมนี้ที่โดดเด่นจริงๆคงเป็นงาน Art ที่ถือว่าใช้ได้เมื่อคิดว่าเป็นเกม Indie ระดับนี้ ถ้าใครชอบเกมประมาณ Puzzle Quest, Bejeweled ก็หามาลองกันได้แต่ถ้าไม่ใช่แนวนี้แนะนำให้ผ่านไปก่อนดีกว่าครับ



Runespell: Overture
เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่ผมจับตามองค่อนข้างมากเลยก่อนที่เกมจะออกเพราะว่าดูน่าสนใจมาก Runespell เป็นเกม Poker Solitaire ที่ผสมผสานเนื้อเรื่องแบบ Fantasy และความสามารถพิเศษแบบในเกม Puzzle Quest เข้าไว้ด้วยกัน ใช่แล้วครับ Solitaire เรียงไพ่นั่นแหละ แต่นับไพ่ 5 ใบแล้วนับเรียงตามแบบเกมไพ่ Poker เกมนี้ Production ถือว่าดีมากๆในทุกด้านทั้ง Art เพลง ระบบการเล่น ทุกอย่างถือว่าลงตัวการเล่นก็ง่ายทุกคนน่าจะเล่น Poker เป็นอยู่แล้ว แถมมีเนื้อเรื่องมีเควสมีการเก็บไพ่ Skill เพื่อนำมาใช้ในระหว่างต่อสู้อีก ก็ถือว่าเจ๋งจริงๆ
อย่างเดียวที่ขอบ่นจริงๆก็คือเกมมันสั้นมากครับ ไม่ใช่สั้นอย่างเดียวแต่มัน Fall Short ในหลายด้านๆเลย คือ การเล่นมีเพียงอย่างเดียวคือสู้ศัตรูเท่านั้น ไม่มีแก้ปริศนา เปิดประตูอะไรทั้งสิ้นแบบใน Puzzle Quest และไพ่ความสามารถก็มีค่อนข้างน้อย แถมเนื้อเรื่องก็สั้นซะเหลือเกินคือน่าจะยาวกว่านี้อีกซัก 5-6 เท่าเลยจริงๆในความคิดผมอ่ะนะ คือมีแคมป์แค่ 2 ที่มีบอสแค่ 3-4 ตัวมันไม่พอจริงๆ เล่นรอบแรกนี่ไม่ถึง 5 ชั่วโมงก็จบแล้วครับแต่เกมมี Campaign + คือเล่นใหม่โดยที่มีพลังเยอะตั้งแต่แรกแต่เล่นๆไปมันก็ No point นอกจากจะเล่นเก็บแต้มอย่างเดียว

ถ้าตัดเรื่องความสั้นของเกมไป ตัวเกมถือว่าดีเลยนะครับสำหรับ Runespell: Overture ใครชอบแนวนี้ก็อยากให้ลองกันจริงๆ ถึงเกมจะสั้นแต่ถึงตอนนี้ผมเล่นมาได้ประมาณเกือบ 20 ช่ัวโมงแล้วก็ถือว่าโอเคนะ



Dungeons of Dredmor
เกมนี้เป็นเกมแนว Rougelike หรือเกมแนวลุยดันเจี้ยนแบบคลาสสิค หลายคนอาจจะไม่รู้จักเกมแนว Rouge ก็ขอให้นึกๆภาพประมาณเกม Desktop Dungeon หรือถ้าบนคอนโซลก็อย่างพวก Torneko Quest (เก่าได้อีก) หรือ Pokemon Mystery Dungeon ประมาณนั้น คือเป็นเกมลุยดันเจี้ยนฆ่าศัตรูเก็บของอัพเลเวลและสกิลไปเรื่อยๆ อาจจะฟังดูธรรมดาแต่สำหรับ Dungeons of Dredmor แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดเยอะมากครับ คือสกิลหลากหลายมากๆทำให้เล่นได้ไม่มีเบื่อ แถมมุกตลกในเกมยังแพรวพราวอีกด้วย ข้อเสียอย่างเดียวคงเป็นการที่ตัวละครหลักมัน Customize อะไรไม่ได้เลยไม่ว่าจะเลือกเป็นนักรบหรือนักเวทเริ่มมาก็คือเหมือนกันหมดเพียงแต่ความสามารถและค่าพลังต่างๆรวมไปถึงการเล่นที่ต่างกันครับ



ครับก็ขอฝากรีวิวเล็กๆไว้เท่านี้ก็แล้วกัน ใครมีเกมอะไรแนะนำหรืออยากถามอะไรเพิ่มเติมก็ถามมาได้ไม่ต้องเกรงใจเลยนะครับ แล้วเจอกันใหม่เดือนหน้าก็แล้วกันครับสำหรับ Steam Games Review