Shoot 'em Up ยิงแม่งเลย กับการคงตัวตนของความเป็น Arcade Action

Monday, August 8, 2011
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมได้มีโอกาสได้เล่นเกม Arcade Action Shooter บนเครื่อง Xbox360 ในนาม Earth Defense Force: Insect Armageddon ซึ่งเป็นภาคล่าสุดของซีรี่ย์นี้

ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นเกมในซีรี่ย์มาก่อนนะครับแต่ก็พอจะรู้เห็นมาบ้างว่าเกมซีรี่ย์นี้เป็นเกมที่เรารับบทเป็นหน่วยพิทักษ์โลกเข้าต่อสู้กับเอเลี่้ยนตัวยักษ์ๆอารมณ์ประมาณหนังทีววีญี่ปุ่นสมัยก่อนๆแบบ Ultraman หรือ Godzilla ประมาณนั้น เคยด้อมๆมองๆตัวเกมในภาคก่อนมาหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้เล่น จนมาถึงภาคนี้เลยคิดว่าน่าจะลองซักหน่อย

ตัวเกมเท่าที่เล่นมาก็อย่างที่เกริ่้นไปว่าเป็นเกมแนว Arcade Shooter ในมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ให้เราได้ตะบันกระสุนใส่ศัตรูที่ถ่าโถมเข้ามาแบบไม่ยั้งตามมาด้วยบอสตัวโตๆ ยานบินลำใหญ่ๆกว่าตึกรามบ้านช่องโผล่มาให้เราได้ยิงกันแบบไม่มีหยุด

บอสยักษ์อลังการแบบนี้ล่ะครับที่ชอบ

เราสามารถเลือกตัวละครได้ 4 คลาสซึ่งอาวุธที่ใช้ ความเร็ว และความสามารถพิเศษที่ต่างกันไปแถมสามารถอัพเกรตอาวุธและเก็บ Level ของคลาสนั้นๆได้อีกด้วย
โดยรวมแล้วส่วนตัวรู้สึกชอบเกมนี้มากๆ รู้สึกเล่นแล้วมันมันส์สะใจและสนุกอาจจะเป็นความชอบส่วนตัวด้วยที่ชอบเรื่องราวประมาณ Alien Invasion และเกมที่ได้สู้กับศัตรูตัวใหญ่ๆ วันนี้มีเวลาก็เลยมานั่งคิดนังเขียนเล่นๆซักหน่อยว่าทำไมเราถึงชอบเกมสไตลล์แบบนี้ ในขณะที่ความจริงเกมที่นับว่ายอดเยี่ยมระดับ GOTY นั้นต้องมีเนื้อเรื่องสุดเจ๋ง ระบบ Physic สุดจ๊าบ กราฟฟิคต้องงดงาม งาน Art ต้องเทพ Effect ต้องโดน เพลงต้องมันส์และเกมเพลย์อันลึกซึ้ง EDF แทบจะไม่มีสิ่งที่กล่าวมาเลยก็ว่าได้ ทั้งเนื้อเรื่องสุด Cheesy ระบบ Physic ... ลืมมันไปเถอะ กราฟฟิคก็งั้นๆพอไปวัดวาได้ งาน Art ก็เฉยๆ Effect ก็ระดับกลาง เพลงก็มันส์ใช้ได้แต่ไม่ได้ระดับ Han Zimmer อะไร แต่ที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็คือว่ามันส์ระดับ Nonstop ของเกมและความที่เกมซื่อสัตย์ต่อความเป็น Arcade Shooter มากๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมตัวเกมถึงไม่มี Tutorial อะไร พอกดเริ่มเกมปุ๊ปเกมจะให้คุณได้ลงสู้สนามรบท่ามกลางเหล่าแมลงตัวนั้นตัวนี้นับพันทันที เพราะว่าเกมแบบนี้คุณสามารถปิดสวิตสมองและเอนจอยกับมันได้เลย
จริงครับที่หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเกมที่แบบไร้ความคิด Mindless Shooter แต่บางทีในบางวันบางเวลาเราก็อยากได้ความสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมากแบบนี้จริงหรือไม่ ก็เหมือนกับการที่บางทีเราก็อยากจะดูหนังแอ็คชั่นหรือหนัง Horror มันๆแบบไม่ต้องมีเนื้อเรื่องซับซ้อนอะไร EDF ก็เหมือนกับความบันเทิงตรงนั้นนั่นเอง และแน่นอนว่าถ้าได้เล่นร่วมกับเพื่อนด้วยละก็ความสนุกจะเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าเหมือนเวลาไปดูหนังกับเพื่อนๆ EDF ก็เช่นเดียวกันครับกับโหมด Co-Op แบบ Split Screen คือเล่น 2 คนบนเครื่องเดียวแบบแบ่งหน้าจอ หรือแบบออนไลน์บน Xbox Live ก็ได้เช่นกัน


โอเคครับๆ จริงๆที่ว่าหลายคนคงจะชอบอะไรที่มันซับซ้อนพลิกแพลง ถ้าเป็นหนังก็ต้องลึกซึ้งในหลายแง่มุมมีความสุนทรีระดับสูงเกมก็ต้องแบบเต็มไปด้วยรายละเอียดแบบ Deus Ex อะไรแบบนั้นถึงจะเรียกว่าเกมนี้สิสุดยอด ไม่เถียงครับเพราะว่าผมก็คิดแบบนั้นเช่นเดียวกันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับ EDF ถึงแม้เกมก็คงจะไม่ได้ชิงรางวัลหรือเป็นแค่ความบันเทิงแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่ด้วยความที่เกมมัน Stay True ต่อความเป็น Arcade Shooter มากๆก็นับได้ว่าเกมมันดีในระดับที่มันควรจะเป็นแล้วจริงๆ มันไม่ได้พยายามจะกลายเป็นอย่างอื่น ไม่ได้จะต้องมีเนื้อเรื่องระดับนิยายอะไร แค่เกมเพลย์ล้วนๆในราคา 40 เหรียญที่ก็ถูกกว่าเกมอื่นๆ ส่วนตัวแล้วต้องขอแอบกระซิบว่า EDF: Insect Armageddon เป็นอีกหนึ่งเกมในดวงใจของปีนี้เลยทีเดียว

ยังครับยังไม่อยากให้จบง่ายๆเพียงแค่นี้ ทีนี้ก็มานั่งคิดต่อเล่นๆว่าเกมสไตลล์แบบนี้จะสามารถมาโยงกับเกมอะไรได้อีก เกมที่ให้เราได้ถล่มศัตรูนับพันแบบไม่ต้องคิดอะไร......... ใช่แล้วครับ Dynasty Warrior นั่นเอง
ไม่ได้จะเปรียบเทียบกันตรงๆระหว่าง Dynasty Warrior กับ EDF นะครับเพราะมันก็ดูจะงี่เง่าไปหน่อย แค่อยากจะบ่นในแง่มุมที่เกมมันคล้ายๆกันเท่านั้น
ก่อนอื่นอย่าเพิ่งเข้าใจผิดเพราะส่วนตัวผมก็เป็นแฟน Dynasty Warrior ถึงจะไม่ใช่แฟนพันธ์แท้แบบเก็บตามทุกเกมก็ตามแต่ก็มีเกมในตระกูล Dynasty Warrior อยู่ไม่ต่ำกว่า 5 เกมก็แล้วกัน (5 จาก ประมาณ 25 เกมทั้งหมดในตระกูล Dynasty Warrior ก็นับว่าโอเคนะ หรือเปล่า)
จริงๆแล้ว Dynasty Warrior เป็นเกมที่มีแฟนๆติดตามอยู่เหนียวแน่นคือถ้าคนชอบก็จะติดตามตลอดแต่คนไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลย อีกทั้งตัวเกมยังได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักจากสื่อต่างๆ อาจจะเป็นเพราะคนต่างชาติอาจจะไม่เข้าถึงความลึกของ 3 ก๊ก แต่ก็โทษไม่ได้เพราะว่า Dynasty Warrior มันไม่ได้นำเสนอตรงนั้นแต่เน้นที่ Mindless Action คือมาคนเดียวฆ่าทั้งกองทัพ ซึ่งก็อย่างเดียวกับ EDF คือมันก็ไม่ได้ผิดอะไร ออกจะมี Content มากกว่าด้วยซ้ำทั้งตัวละครที่มากกว่ามากและเนื้อเรื่องที่แยกออกเป็นหลายฝ่าย แต่เกมอาจจะออกมาถี่ไปหน่อยแทบจะทุกปีและไม่มีความพัฒนาจึงได้รับคำวิจารณ์แบบนั้นซึ่งก็ช่วยไม่ได้และส่วนตัวผมว่าทาง Koei ก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรด้วย
แต่เนื่องจากด้วยความเป็น 3ก๊กที่หลายๆคนก็อาจจะเคยได้รับรู้เนื้อเรื่องมาจนเรียกได้ว่าพรุนๆจนไม่รู้จะพรุนยังไงแล้วบวกกับเกมเพลย์แบบเดิมๆตลอดทุกภาคมันเลยทำให้ Dynasty Warrior มันดูเป็นเกมแอ็คชั่นจืดๆลงไป ศัตรูถึงจะเยอะก็จริงแต่ก็เป็นทหารเลวแบบมันไม่มีอะไรน่ามองเมื่อเปรียบเทียบกับเหล่าแมลงใน EDF ที่มันอาจจะดูตื่นตาตื่นใจกว่าหน่อยนึง และถ้าจะเปรียบเทียบการประจันหน้ากันระหว่างผู้เล่นอย่างเรากับ เทพนักรบลิโป้ กับการประจันหน้าระหว่างเรากับหุ่นยักษ์ขนาดใหญ่กว่าตึก แน่นอนว่าอย่างหลังมันก็ย่อมตื่นตาตื่นใจกว่าอยู่แล้ว (ถึงแม้ว่าเวลาซัดกับลิโป้ใน DW ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกันก็ตามเพราะอาจจะตายได้ภายใน 2 กระบวนท่า)
นอกจาก 3 ก๊กแล้ว Dynasty Warrior Gundam ที่ล่าสุดออกมาถึงภาค 3 แล้วก็ได้รับคะแนนรีวิวที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ข้อดีอย่างนึงของ Gundam นอกจากหุ่นยนต์สุดเท่ห์และแนวกราฟฟิคที่เป็นอนิเมะก็คือส่วนของเนื้อเรื่องที่ยังไม่ตายเพราะว่า Gundam ยังมีภาคใหม่ๆหุ่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ถึงแม้ว่า Mechanic การบังคับของหุ่นแต่ละตัวในเกมจะไร้ซึ่งความแตกต่างก็ตามแต่ได้ขับหุ่นใหม่ๆที่ผู้เล่นชอบก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยังช่วยดึงดูดผู้เล่นได้

ไม่เพียงเท่านั้นครับสำหรับค่าย Koei ล่าสุดผมเพิ่งได้มีโอกาสเล่น Fist of the North Star: Ken's Rage ซึ่งโดยรวมตัวเกมมันไม่ได้ต่างกันเลย รูปแบบการเล่นมันก็คือ Dynasty Warriors ในคราบเคนชิโร่นี่แหละ แต่กลับต้องแปลกใจครับเพราะว่าผมเอนจอยกับเกมมากๆ ส่วนนึงคงเพราะความชอบส่วนตัวที่ชื่นชอบการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้ว บวกกับเวลาการใช้ท่าต่างๆมันช่างสะใจ สะใจกว่าท่าผีเสื้อพระจันทร์อันทรงพลานุภาพขนาดทำลายล้างดาวได้ของ Turn A Gundam เสียอีก นี่คงเป็นสเน่ห์ส่วนนึงของตัวเกม (ก็ไม่แน่ถ้าขืน Koei ยังทะลึ่งทำ เคนชิโร่มาอีกเป็นภาคที่ 3 4 5 6 ตอนนั้นคงจะโดนสับระนาว)

Ken's Rage เล่าเรื่องราวตามเนื้อเรื่องฉบับการ์ตูนได้ละเอียดดีทีเดียวครับ

แน่นอนครับว่าเกมพวก Beat them up เหล่านี้คงจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศอะไรในสาขาอะไรทั้งสิ้นเช่นเดียวกับ EDF แต่ถามตัวเราว่าเราต้องการอะไรกันแต่เวลาเล่นเกมกันแน่ (สำหรับผม แค่ความสนุกครับ)

0 comments: